สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว Apple ทุกคน วันนี้ผมมีข่าวดีมาบอกเลยครับ Apple ได้ประกาศเปิดตัวชิปตัวใหม่อย่าง M4 แล้วนะครับ ซึ่งจะมาพร้อมกับ iPad Pro รุ่นล่าสุด และที่สำคัญคือ ชิปตัวนี้โฟกัสไปที่งานด้าน AI โดยเฉพาะเลยครับ
ชิป M4 นี้ผลิตด้วยกระบวนการ 3nm เจนเนอเรชั่นที่ 2 และมาพร้อมกับ performance core 4 ตัว และ efficiency core 6 ตัว รวมถึง GPU 10 core ด้วยครับ แต่ที่เจ๋งสุด ๆ เลยคือ neural engine ตัวใหม่ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 38 ล้านล้านครั้งต่อวินาที เนื่องจากมีดีไซน์เป็น 16 core ซึ่งเร็วกว่า neural engine ตัวแรกเมื่อปี 2017 ถึง 60 เท่าเลยทีเดียว
ชิป M4 ออกแบบมาเพื่อจัดการงาน AI บนตัวอุปกรณ์เอง
ชิป M4 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI บนตัว iPad Pro โดยตรงเลยครับ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมให้ดีขึ้นอย่างมาก นอกจากความสามารถด้าน AI แล้ว ชิป M4 ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงในด้านอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ประมวลผลส่วนกลางได้เร็วขึ้น 50% และกราฟิกเร็วขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับชิป M2 รุ่นก่อนหน้า
ชิป M4 ยังมาพร้อม display engine ตัวใหม่ที่เร็วกว่าเดิมถึง 4 เท่า รองรับ dynamic caching, mesh shading และ ray tracing ด้วยครับ แถมยังประหยัดพลังงานอีกต่างหาก ให้ประสิทธิภาพเท่ากับ M2 แต่ใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว
iPad Pro ใหม่บางเบาลง จอสวยขึ้น ความจุเยอะขึ้น
iPad Pro รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมชิป M4 นี้ จะบางและเบากว่ารุ่นก่อน โดยหนาเพียง 5.1 มม. และหนักไม่ถึง 1 ปอนด์เลยครับ[1] จอก็สวยคมชัดขึ้นด้วยเทคโนโลยี OLED บน Ultra Retina XDR ให้สีสันที่แม่นยำและภาพที่คมชัดกว่าเดิม ส่วนความจุเริ่มต้นที่ 256GB ไปจนถึง 2TB เลยทีเดียว
Apple หวังกระตุ้นยอดขาย iPad ด้วยชิป M4
การเปิดตัวชิป M4 ของ Apple ครั้งนี้ เป็นความพยายามที่จะฟื้นยอดขาย iPad ที่ลดลงในช่วงหลัง โดย iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่จะมีราคาสูงขึ้นที่ 999 ดอลลาร์ และ 599 ดอลลาร์ ตามลำดับ แต่ก็มาพร้อมกับการอัปเกรดที่คุ้มค่าทั้งด้านประสิทธิภาพและฟีเจอร์ต่าง ๆ
การที่ Apple เน้นเรื่อง AI กับชิป M4 นี้ ก็เป็นเพราะ Microsoft กำลังจะเปิดตัวฮาร์ดแวร์ Arm รุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะมาแข่งกับ MacBook Air M3 ของ Apple ในแง่ของประสิทธิภาพ CPU และงาน AI โดยเฉพาะ
มุมมองส่วนตัว
ผมว่าการที่ Apple ให้ความสำคัญกับ AI มากขึ้นเรื่อย ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะ AI กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีหลักในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน การที่ชิปเซ็ตอย่าง M4 สามารถประมวลผล AI ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ก็จะยิ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย
อีกอย่างคือเรื่องของประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งความเร็ว ความละเอียดของจอ และความจุที่มากขึ้น จะยิ่งตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานกราฟิก, ตัดต่อวิดีโอ, เล่นเกม หรือแม้แต่งานด้าน AI เอง
สุดท้ายนี้ ถึงแม้ราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่ผมว่ามันคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปกและฟีเจอร์ที่ได้มานะครับ ใครที่เป็นแฟน Apple อยู่แล้ว บอกเลยว่าไม่ควรพลาด iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่นี้เลยครับ
แท็ก: #AppleM4 #iPadPro #iPadAir #AI #neuralengine #3nm #Apple
ที่มา
Reference
.
No Comments