การใช้ LLM และ Sitemap Parser เพื่อสรุปเนื้อหาเว็บไซต์อัตโนมัติ

Headlineการใช้ LLM และ Sitemap Parser เพื่อสรุปเนื้อหาเว็บไซต์อัตโนมัติ

การใช้ LLM และ Sitemap Parser เพื่อสรุปเนื้อหาเว็บไซต์อัตโนมัติ

สวัสดีครับ 👋 วันนี้ผมจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีสุดล้ำที่จะช่วยให้การสรุปเนื้อหาจากเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายขึ้น นั่นคือการผสมผสานระหว่าง Sitemap Parser และ Large Language Model (LLM) ครับ

ทำไมต้องใช้ Sitemap Parser?

Sitemap Parser คือเครื่องมือที่ช่วยดึงข้อมูล URL และ metadata ต่างๆ จากไฟล์ sitemap.xml ของเว็บไซต์ครับ เปรียบเสมือนแผนที่ที่บอกว่าในเว็บไซต์มีหน้าไหนบ้าง และแต่ละหน้ามีความสำคัญแค่ไหน 🗺️

สิ่งที่ Sitemap Parser ช่วยได้:

  • ดึง URL ทั้งหมดจากเว็บไซต์
  • เก็บข้อมูล metadata เช่น วันที่อัพเดท ความถี่ในการเปลี่ยนแปลง
  • ช่วยให้ crawler ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พลังของ LLM ในการสรุปเนื้อหา

LLM หรือ Large Language Model เป็นเทคโนโลยี AI ที่สามารถเข้าใจบริบทและสรุปข้อมูลได้อย่างชาญฉลาด 🤖

เทคนิคการสรุปเนื้อหามี 3 แบบหลักๆ:

  1. Stuff Method – ยัดเนื้อหาทั้งหมดเข้าไปรวดเดียว (แต่มีข้อจำกัดเรื่อง context window)

  2. Map-Reduce Method – แบ่งเนื้อหาเป็นชิ้นเล็กๆ สรุปทีละส่วน แล้วค่อยรวมกัน

  3. Refine Method – สรุปแบบวนซ้ำเพื่อความแม่นยำ (แต่ใช้ทรัพยากรเยอะหน่อยครับ 😅)

การนำไปใช้งานจริงด้วย LangChain

💡 Tip: RAG (Retrieval Augmented Generation) เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสรุปเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้นครับ

ขั้นตอนการทำงานมีดังนี้:

  1. Parser ดึง URL จาก sitemap
  2. แบ่งเนื้อหาเป็นชิ้นเล็กๆ
  3. ใช้ LLM สรุปทีละส่วน
  4. รวมผลสรุปทั้งหมดเข้าด้วยกัน
  5. แสดงผลหรือจัดเก็บ

สรุป

การผสมผสาน Sitemap Parser กับ LLM เป็นวิธีที่ทรงพลังในการสรุปเนื้อหาแบบอัตโนมัติครับ ช่วยประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ

ผมให้คะแนนเทคโนโลยีนี้ 9/10 ครับ เพราะช่วยให้การทำงานกับข้อมูลจำนวนมากง่ายขึ้นมาก แต่ยังมีพื้นที่ให้พัฒนาต่อไปได้อีก

แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะครับ! 👋

#datascience #generativeai #genai #dataespresso

.

Related articles

การใช้ Cline บน VSC Code เพื่อใช้ AI ช่วยเขียนโปรแกรม: คู่มือฉบับสมบูรณ์จาก Data-Espresso

เรียนรู้วิธีใช้ Cline AI บน VS Code เพื่อปฏิวัติการเขียนโปรแกรมของคุณ! เพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเร่งการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยผู้ช่วย AI อัจฉริยะ อ่านเลย!

Google เปิดตัว Gemini AI Ultra กับผลกระทบของการทำงานจริงหรือ?

เจาะลึก Google Gemini AI Ultra จากงาน I/O 2025 ฟีเจอร์ใหม่ ผลกระทบต่อการทำงาน และวิธีที่ธุรกิจ SME จะปรับตัวและใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อการเติบโต โดย Data-Espresso

MCP A2A Protocol กับ AI: การเปลี่ยนแปลงใหม่ในโลกดิจิทัล

ทำความเข้าใจ MCP และ A2A Protocol มาตรฐานใหม่ที่ปฏิวัติการทำงานร่วมกันของ AI Agents และผลกระทบต่อธุรกิจ รวมถึงวิธีที่ Data-Espresso ช่วยคุณได้

สรุปงาน Google I/O 2025 Update สำคัญที่ต้องอ่าน

อัปเดตล่าสุดจาก Google I/O 2025! สรุปไฮไลท์สำคัญ Gemini AI, Project Astra, Android 16 และนวัตกรรม AI อื่นๆ ที่ธุรกิจและนักพัฒนาต้องรู้ อ่านเลย!

SME ควรเริ่มลงทุนและใช้ AI อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับ SME ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนและนำ AI มาใช้ในธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์ ตั้งแต่การวางแผน การเลือกเครื่องมือ จนถึงการวัดผล เพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

Related Article

Perplexity เปิดตัว Labs: เขย่าวงการ AI ด้วยเครื่องมือสร้างคอนเทนต์แห่งอนาคต

Perplexity Labs คืออะไร? ค้นพบศักยภาพเครื่องมือ AI ใหม่จาก Perplexity ที่สร้างได้ทั้งรายงาน สเปรดชีต แดชบอร์ด และเว็บแอปฯ พร้อมวิธีที่ธุรกิจคุณจะนำไปใช้ประโยชน์ในการทำ AI consulting และ AI automation workflows

A2A (Agent to Agent) คืออะไร? ปฏิวัติการทำงานร่วมกันของ AI Agent

เจาะลึก A2A (Agent to Agent) โปรโตคอลเปิดที่ช่วยให้ AI Agent ต่างค่ายสื่อสารและทำงานร่วมกันได้ พร้อมประโยชน์สำหรับธุรกิจ SME และ AI consulting โดย Data-Espresso

MCP คืออะไร? เจาะลึกมาตรฐานใหม่ พลิกเกม AI Agent และ Workflow Automation

MCP (Model Context Protocol) คืออะไร? ทำความเข้าใจมาตรฐานเปิดที่ช่วยให้ AI Agent เชื่อมต่อข้อมูลภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประโยชน์ ตัวอย่างการใช้งานใน n8n และอนาคตของ AI
สอบถามข้อมูล