วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 21, 2025
spot_img
หน้าแรกMAKE15 เทคนิคประหยัด Operations บน Make.com

15 เทคนิคประหยัด Operations บน Make.com [2025]

- Advertisement -spot_img

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Data Espresso ทุกคน 👋 วันนี้เรามาคุยกันเรื่องการประหยัด Operations บน Make.com กันดีกว่า เชื่อว่าหลายคนคงกำลังมองหาวิธีลดต้นทุนการใช้งานแพลตฟอร์มอัตโนมัติสุดเจ๋งนี้อยู่แน่ๆ เพราะยิ่งใช้มากก็ยิ่งเปลือง Operations ใช่ไหมครับ? 😅

แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ! วันนี้ผมจะมาแชร์ 15 เทคนิคเด็ดๆ ที่จะช่วยให้คุณประหยัด Operations บน Make.com ได้อย่างเหลือเชื่อ พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ!

1. เชื่อมต่อฟอร์มกับข้อมูลหลัก

เริ่มต้นด้วยเทคนิคง่ายๆ แต่ได้ผลดีเยี่ยมครับ นั่นคือการเชื่อมต่อฟอร์มกับข้อมูลหลักของคุณ

💡 ลองนึกภาพว่าคุณมีฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลลูกค้า แทนที่จะให้พนักงานกรอกข้อมูลซ้ำๆ ทุกครั้ง เราสามารถเชื่อมต่อฟอร์มกับฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่แล้วได้

วิธีนี้จะช่วย:

  • ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลด้วยมือ
  • ประหยัดเวลาในการทำงาน
  • ลดจำนวน Operations ที่ต้องใช้ในการประมวลผลข้อมูล

2. ใช้ Conditional Steps และ Branches

ต่อมาเรามาดูวิธีการจัดการกับกระบวนการที่มีหลายเงื่อนไขกันบ้างครับ

🤔 คุณเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหม? Workflow ของคุณต้องทำงานแตกต่างกันไปตามประเภทของลูกค้า หรือมูลค่าของออเดอร์

วิธีแก้ก็คือ ใช้ Conditional Steps และ Branches ครับ!

  • Conditional Steps: ช่วยให้คุณกำหนดเงื่อนไขในการทำงานได้
  • Branches: แยกเส้นทางการทำงานตามเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

การใช้ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้ Workflow ของคุณ:

  • ยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ประหยัด Operations โดยไม่ต้องสร้าง Workflow แยกสำหรับแต่ละกรณี
  • จัดการกับข้อยกเว้นต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การเชื่อมหลายๆ Workflows เข้าด้วยกัน

เทคนิคนี้อาจฟังดูซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วง่ายมากครับ

🔗 แทนที่จะสร้าง Workflow ขนาดใหญ่และซับซ้อน ลองแยก Workflow ออกเป็นส่วนๆ แล้วเชื่อมต่อกันด้วย Triggers หรือ Webhook

ตัวอย่างเช่น:

  • Workflow สำหรับการเสนอราคา
  • Workflow สำหรับการสั่งซื้อ
  • Workflow สำหรับการ Onboard ลูกค้าใหม่

วิธีนี้จะช่วยให้:

  • Workflow แต่ละส่วนทำงานได้เร็วขึ้น
  • ง่ายต่อการแก้ไขและปรับปรุง
  • ประหยัด Operations โดยรวม เพราะแต่ละ Workflow จะทำงานเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น

4. เปลี่ยนจากการอนุมัติเป็นการแจ้งเตือน

นี่เป็นเทคนิคที่ผมชอบมากๆ เลยครับ เพราะช่วยลดคอขวดในกระบวนการทำงานได้อย่างมาก

🚦 แทนที่จะให้ผู้บริหารต้องอนุมัติทุกขั้นตอน เปลี่ยนเป็นการส่งอีเมลแจ้งเตือนแทน

ข้อดีของวิธีนี้:

  • ลดเวลารอคอยการอนุมัติ
  • ผู้บริหารยังคงรับทราบข้อมูลสำคัญ
  • ประหยัด Operations ที่ต้องใช้ในการรอการอนุมัติ

💡 Tips: คุณสามารถใช้ การใช้งานพื้นฐาน Make.com เพื่อสร้าง Workflow การแจ้งเตือนอย่างง่ายได้

5. ใช้ประโยชน์จาก Visual Workflow Builder

Make.com มีจุดเด่นที่ Visual Workflow Builder ที่ใช้งานง่ายมากครับ

🎨 ลองใช้ความสามารถนี้ให้เต็มที่:

  • ออกแบบ Workflow ด้วยบล็อก (โมดูล) ต่างๆ
  • ใช้โมดูลสำหรับดึงข้อมูล ส่งการแจ้งเตือน หรือประมวลผลข้อมูล

การใช้ Visual Workflow Builder อย่างชาญฉลาดจะช่วย:

  • ลดความซับซ้อนของ Workflow
  • ทำให้เห็นภาพรวมของกระบวนการได้ง่ายขึ้น
  • ประหยัด Operations โดยการออกแบบ Workflow ที่มีประสิทธิภาพ

6. ใช้ Filters และ Conditions อย่างชาญฉลาด

Filters และ Conditions เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากๆ ในการประหยัด Operations ครับ

🔍 ลองนึกภาพว่าคุณมี Workflow ที่ต้องประมวลผลใบแจ้งหนี้จำนวนมาก

แทนที่จะประมวลผลทุกใบ คุณสามารถใช้ Filters เพื่อ:

  • กรองเฉพาะใบแจ้งหนี้ที่มีมูลค่าสูง
  • ประมวลผลเฉพาะลูกค้า VIP
  • จัดการเฉพาะรายการที่ต้องการความเร่งด่วน

วิธีนี้จะช่วย:

  • ลดจำนวน Operations ที่ต้องใช้โดยรวม
  • เพิ่มความเร็วในการทำงานของ Workflow
  • มุ่งเน้นทรัพยากรไปที่งานสำคัญ

7. ลดความซับซ้อนของกระบวนการ

บางครั้งเราอาจสร้าง Workflow ที่ซับซ้อนเกินความจำเป็นโดยไม่รู้ตัว

✂️ ลองทบทวน Workflow ของคุณและตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออก:

  • ระบุขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน
  • ตัดกระบวนการที่ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม
  • รวมขั้นตอนที่คล้ายกันเข้าด้วยกัน

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ลดเวลาในการทำงานลง 25-40%
  • ประหยัด Operations อย่างมาก
  • Workflow ทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

8. ใช้ Automation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Automation เป็นหัวใจสำคัญของการประหยัด Operations ครับ

🤖 มองหาโอกาสในการ Automate งานที่ทำซ้ำๆ เช่น:

  • การส่งอีเมลตอบกลับอัตโนมัติ
  • การอัพเดทสถานะของงาน
  • การสร้างรายงานประจำวัน/สัปดาห์

ประโยชน์ที่ได้:

  • ลดความผิดพลาดจากการทำงานด้วยมือ
  • ประหยัดเวลาและทรัพยากรบุคคล
  • ลดจำนวน Operations ที่ต้องใช้ในระยะยาว

💡 Tips: หากคุณใช้ Make.com ฟรี คุณอาจต้องระวังข้อจำกัดบางอย่าง แต่ก็ยังสามารถสร้าง Automation ที่มีประสิทธิภาพได้

9. นำหลัก Lean และ Six Sigma มาใช้

หลักการ Lean และ Six Sigma อาจฟังดูเป็นทางการ แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ Make.com ได้อย่างดีเยี่ยมครับ

📊 วิธีการนำมาใช้:

  • Lean: มุ่งเน้นการกำจัด “ขั้นตอนที่ไม่จำเป็น” ในกระบวนการ
  • Six Sigma: ระบุและแก้ไขข้อบกพร่องในกระบวนการ

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • Workflow ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • ลดความผิดพลาดและการทำงานซ้ำ
  • ประหยัด Operations โดยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

10. วางแผนปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ

การวางแผนที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการประหยัด Operations ครับ

📝 ขั้นตอนในการวางแผน:

  1. วิเคราะห์กระบวนการปัจจุบัน
  2. ระบุจุดที่ต้องปรับปรุง
  3. ออกแบบ Workflow ใหม่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์

ประโยชน์ที่ได้:

  • Workflow ที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้น
  • ลดการใช้ Operations ที่ไม่จำเป็น
  • เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ

11. สร้าง Workflow แบบ Agile

หลักการ Agile ไม่ได้ใช้แค่ในการพัฒนาซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่สามารถนำมาใช้กับการออกแบบ Workflow บน Make.com ได้ด้วยครับ

🔄 แนวทางการทำ Agile Workflow:

  • เน้นการมีปฏิสัมพันธ์และการทำงานร่วมกัน
  • สร้าง Workflow ที่ปรับเปลี่ยนได้ง่าย
  • ทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ข้อดีของ Agile Workflow:

  • ยืดหยุ่นและปรับตัวได้เร็วตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลง
  • ลดความเสี่ยงในการสร้าง Workflow ที่ไม่ตอบโจทย์
  • ประหยัด Operations ในระยะยาวด้วยการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

12. ใช้เทคนิค Dovetailing Workflows

Dovetailing เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมากๆ ในการจัดการ Workflow ที่ซับซ้อนครับ

🔗 วิธีการ Dovetail Workflows:

  • แยก Workflow ออกเป็นส่วนๆ ที่เล็กลง
  • สร้างจุดเชื่อมต่อระหว่าง Workflow
  • ใช้ Triggers เพื่อเริ่มต้น Workflow ถัดไปโดยอัตโนมัติ

ประโยชน์ของ Dovetailing:

  • ลดความซับซ้อนของ Workflow หลัก
  • ง่ายต่อการบำรุงรักษาและแก้ไข
  • ประหยัด Operations โดยการแยกการทำงานเป็นส่วนๆ

13. จัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดสรรทรัพยากรที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการประหยัด Operations ครับ

🧠 วิธีจัดสรรทรัพยากรอย่างชาญฉลาด:

  • วิเคราะห์ Workflow เพื่อหาจุดคอขวด
  • ระบุทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับแต่ละขั้นตอน
  • จัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับความสำคัญของงาน

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ลดการใช้ Operations ที่ไม่จำเป็น
  • เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของ Workflow
  • ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่ามากขึ้น

14. ใช้ RCM เพื่อลดต้นทุน

Revenue Cycle Management (RCM) เป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในวงการสุขภาพ แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ Make.com ได้เช่นกันครับ

💰 วิธีนำ RCM มาใช้:

  • วิเคราะห์กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับรายได้
  • ระบุจุดที่สามารถลดต้นทุนได้
  • ใช้ Make.com เพื่อออกแแบบ Workflow ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการรายได้

ประโยชน์ของการใช้ RCM:

  • ลดต้นทุนการดำเนินงาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการรายได้
  • ประหยัด Operations โดยการจัดการกระบวนการอย่างมีระบบ

15. นำ BPM มาใช้เพื่อความเป็นเลิศในการดำเนินงาน

Business Process Management (BPM) เป็นแนวคิดที่สามารถนำมาใช้กับ Make.com เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยมครับ

🏆 วิธีนำ BPM มาใช้กับ Make.com:

  • วิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ
  • ใช้ Make.com เพื่อสร้าง Workflow ที่สอดคล้องกับ BPM
  • มุ่งเน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ BPM:

  • ลดความซ้ำซ้อนในกระบวนการ
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร
  • ประหยัด Operations โดยการทำงานอย่างเป็นระบบ

สรุป

เอาล่ะครับ เราได้ผ่าน 15 เทคนิคการประหยัด Operations บน Make.com กันมาแล้ว! 🎉 ผมหวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน Make.com ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

💡 ความเห็นส่วนตัวของผม: การประหยัด Operations ไม่ได้หมายถึงการลดคุณภาพของงานลงนะครับ แต่เป็นการทำงานอย่างฉลาดขึ้น ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และสร้างผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ถ้าคุณกำลังคิดจะยกเลิกบริการ Make.com เพราะค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ก่อนนะครับ บางทีคุณอาจจะพบว่าสามารถประหยัดได้มากกว่าที่คิด! แต่ถ้าในที่สุดแล้วคุณยังต้องการยกเลิก ก็สามารถดู วิธียกเลิกบริการ Make.com ฉบับสมบูรณ์ ได้เลยครับ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการออกแบบ Workflow ที่ดีเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์นะครับ ต้องอาศัยทั้งความรู้ ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ ลองเอาเทคนิคเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ แล้วมาแชร์ผลลัพธ์กันได้เลยครับ! 😊

#MakeAutomation #OperationsOptimization #WorkflowEfficiency

#datascience #generativeai #genai #dataespresso

.

Apipoj Piasak
Apipoj Piasakhttp://data-espresso.com
AI Specialist, Data Engineer, Data Strategist, Data Scientist
RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img

Most Popular

สอบถามข้อมูล