OpenAI เพิ่งประกาศเปิดตัว o3 โมเดล AI รุ่นใหม่ล่าสุดที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้วงการเทคโนโลยีครับ โดยสามารถทำคะแนนทดสอบ ARC-AGI ได้สูงถึง 87.5% ในโหมดประมวลผลแบบเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมวงการ AI เลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นของ o3
o3 เป็นโมเดลตระกูล “o” รุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก o1 ที่เปิดตัวเมื่อ 3 เดือนก่อน โดยมีจุดเด่นคือความสามารถในการ “คิดอย่างมีเหตุผล” (Reasoning) ที่เหนือกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจน
ความสามารถที่โดดเด่น
ด้านการเขียนโค้ด: ทำคะแนน SWE-bench verified ได้ 71.7% และได้คะแนน Codeforces 2727 ซึ่งอยู่ในระดับ International Grandmaster
ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์: ทำคะแนน AIME 2024 ได้ 96.7% และ GPQA Diamond ได้ 87.7%
ความสามารถในการปรับตัว: สามารถแก้โจทย์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานของ o3
o3 ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบ Reinforcement Learning ที่เน้นการคิดวิเคราะห์ก่อนตอบ โดยจะ:
- ตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบด้วยตัวเอง
- ลดข้อผิดพลาดและการตอบผิดพลาด (Hallucination)
- วางแผนการแก้ปัญหาเป็นขั้นตอน
💡 ในมุมมองของผม o3 เปรียบเสมือนนักเรียนที่ไม่รีบตอบคำถาม แต่จะคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนให้คำตอบครับ
ความท้าทายและข้อจำกัด
ด้านประสิทธิภาพการประมวลผล
o3 รุ่น High-compute ใช้ทรัพยากรมากกว่ารุ่น Low-compute ถึง 172 เท่า
ต้นทุนการประมวลผลต่องานอยู่ที่ $17-20 ซึ่งยังสูงกว่าค่าจ้างมนุษย์ที่ $5 ต่องาน
แผนการเปิดตัว
o3-mini จะเปิดตัวก่อนในปลายเดือนมกราคม 2025 หลังจากนั้นค่อยเปิดตัว o3 ช่วงเวลาถัดไป
และตอนนี้เปิดให้เฉพาะนักวิจัยด้านความปลอดภัยทดสอบก่อน
💡 ผมมองว่า o3 เป็นก้าวสำคัญของ AI ที่กำลังพัฒนาไปสู่ AGI (Artificial General Intelligence) แม้จะยังไม่ใช่ AGI เต็มรูปแบบ แต่ความสามารถในการปรับตัวและแก้ปัญหาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของ o3 ก็น่าประทับใจมากครับ
การแข่งขันในวงการ AI กำลังเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการแข่งกับ Google Gemini 2.0 ผมคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะได้เห็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานและการลดต้นทุนการประมวลผลครับ