วันเสาร์, ธันวาคม 21, 2024
spot_img
หน้าแรกMarTechMake vs Zapier vs n8n: ศึกชิงบัลลังก์ Automation Platform ปี 2024 🤖👑

Make vs Zapier vs n8n: ศึกชิงบัลลังก์ Automation Platform ปี 2024 🤖👑

- Advertisement -spot_img

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Data-Espresso ทุกคน! วันนี้เรามาอัพเดทกันหน่อยว่าในปี 2024 นี้ เครื่องมือ automation ตัวไหนจะครองใจผู้ใช้งานมากที่สุด ระหว่าง Make, Zapier และน้องใหม่มาแรงอย่าง n8n 🚀

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบทำงานแบบอัตโนมัติ หรือกำลังมองหาวิธีประหยัดเวลาในการทำงาน บทความนี้มีคำตอบให้คุณแน่นอนครับ

Automation Platform คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?

Automation Platform ก็คือเครื่องมือวิเศษที่จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อแอพต่างๆ เข้าด้วยกัน แล้วสั่งให้มันทำงานอัตโนมัติได้ครับ

ลองนึกภาพว่าคุณมีผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยทำงานซ้ำๆ ให้คุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันลา ไม่มีวันหยุด แถมไม่บ่นอีกต่างหาก เจ๋งไหมล่ะครับ? 555+

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น พอมีลูกค้ากรอกฟอร์มสั่งซื้อสินค้าใน Google Forms ปุ๊บ ระบบก็จะ:
1. ส่งข้อมูลไปเก็บใน Google Sheets
2. ส่งอีเมลยืนยันการสั่งซื้อให้ลูกค้า
3. แจ้งเตือนทีมงานผ่าน Slack
4. สร้างใบเสร็จใน accounting software

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งเลยครับ สบายไหมล่ะ? 😎

💡 ในความเห็นของผม Automation Platform นี่สำคัญมากๆ เลยนะครับ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนต้องการทำงานให้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ใช้เวลาน้อยลง ถ้าเราใช้เป็น มันช่วยประหยัดเวลาได้มหาศาลเลยครับ

รายการ: มาดูกันว่า Make, Zapier และ n8n ต่างกันยังไง

1. วิธีการทำงาน: Mindmap vs เส้นตรง vs สายเทคนิค

  • Make: ใช้วิธีการสร้าง workflow แบบ mindmap ครับ ทำให้เห็นภาพรวมของงานได้ชัดเจน เหมือนเรากำลังวาดแผนผังความคิดยังไงยังงั้นเลย
  • Zapier: ใช้วิธีการสร้าง automation แบบเส้นตรงและค่อนข้างตายตัว ง่ายๆ ตรงไปตรงมา เหมาะกับมือใหม่สุดๆ
  • n8n: มี interface ที่เป็นมิตรกับสายเทคนิคมากกว่า ปรับแต่งได้เยอะ ถ้าใครชอบเจาะลึกเรื่องเทคนิค น่าจะชอบตัวนี้



💡 จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมว่า Make น่าจะเข้าถึงได้ง่ายที่สุดสำหรับคนทั่วไปนะครับ แต่ถ้าเป็นสายเทคนิค n8n อาจจะถูกใจมากกว่า ส่วน Zapier นี่ถ้าแค่อยากลองเล่นๆ ก็เริ่มได้ง่ายดีครับ

2. การติดตั้งและการใช้งาน: Cloud vs Self-hosted

  • Make: เป็นบริการแบบ cloud-based ครับ ใช้งานได้ทันทีผ่านเว็บ สมัครปุ๊บใช้ปั๊บเลย
  • Zapier: เป็นบริการแบบ cloud-based เช่นกัน ง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรมาก
  • n8n: เป็น open-source platform ที่สามารถ self-host ได้ครับ แปลว่าคุณสามารถเอาไปติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณเองได้ แต่ก็มีแบบ cloud ให้ใช้เหมือนกันนะ

#funfact: การ self-host อย่าง n8n อาจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้นะครับ โดยเฉพาะถ้าคุณมี workflow เยอะๆ! แต่ก็ต้องมีคนดูแลระบบหน่อยนะ

💡 จากประสบการณ์ของผม n8n เหมาะมากสำหรับใช้ในบริษัทที่มีทีม IT คอยช่วยดูแล server ครับ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลย แต่ถ้าเป็นฟรีแลนซ์หรือทำงานส่วนตัว ผมว่า Make หรือ Zapier น่าจะสะดวกกว่าครับ

3. ความสามารถในการ Automate: ไร้ขีดจำกัด vs จำกัด vs ยืดหยุ่น

  • Make: สามารถ automate ได้แทบทุกแอปครับ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวน actions เลยนะ ทำได้เยอะแค่ไหนก็ว่ามาเลย
  • Zapier: มีข้อจำกัดในเรื่องจำนวน actions ที่สามารถทำได้ต่อแอป แต่ชดเชยด้วยการมีแอพให้เชื่อมต่อเยอะมากๆ
  • n8n: มีความยืดหยุ่นสูงมากครับ สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ เหมาะกับ workflow ที่ซับซ้อน และที่เจ๋งสุดคือสามารถใช้ JavaScript เพิ่มความยืดหยุ่นได้ด้วย

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการ automate การส่งอีเมลหาลูกค้า 100 คนพร้อมกัน Make ทำได้สบายๆ แต่ Zapier อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องนี้ ส่วน n8n นี่ไม่ต้องพูดถึง ทำอะไรซับซ้อนๆ ได้หมดเลยครับ 555+

4. ราคา: คุ้มค่า vs แพงกว่า vs ยืดหยุ่น

  • Make: เริ่มต้นที่ $9/เดือน สำหรับ 10,000 operations เรียกว่าคุ้มสุดๆ ไปเลย
  • Zapier: เริ่มต้นที่ $19.99/เดือน สำหรับ 750 tasks แพงกว่า Make นิดหน่อย
  • n8n: แผน Basic อยู่ที่ $20/เดือน สำหรับ 10,000 executions

ลองมาคำนวณกันง่ายๆ นะครับ:
– Make: $0.0009 ต่อ operation
– Zapier: $0.027 ต่อ task
– n8n: $0.002 ต่อ execution

Make ถูกกว่า Zapier ประมาณ 30 เท่าเลยทีเดียว! 😱 ส่วน n8n ก็ถูกกว่า Zapier เหมือนกัน แต่แพงกว่า Make นิดหน่อย



💡 จากประสบการณ์ของผม Zapier ราคาแพงไปนิดนะครับ แต่ถ้ามี workflow ง่ายๆ ก็ใช้แบบฟรีไปก็ได้ ส่วน n8n ผมเอาไปใช้กับงานบริษัท เพราะมี IT ช่วยดูแล server ส่วน Make ผมใช้งานส่วนตัว คุ้มสุดแล้วครับ

ตารางเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระยะยาว , ที่มา n8n

5. การควบคุมข้อมูล: ฝากไว้กับเขา vs ดูแลเอง

  • Make และ Zapier: ข้อมูลอยู่บน cloud ของบริษัทเขาครับ สะดวกดี แต่ก็ต้องไว้ใจเขาหน่อย
  • n8n: ถ้าติดตั้งเอง ข้อมูลอยู่ที่เซิร์ฟเวอร์ของคุณ ปลอดภัยสุดๆ แต่ก็ต้องดูแลเองนะ

💡 ถ้าให้ผมวิเคราะห์ ถ้าคุณทำงานกับข้อมูลทั่วๆ ไป Make หรือ Zapier ก็โอเคแล้วครับ แต่ถ้าเป็นข้อมูลสำคัญๆ หรือความลับบริษัท การใช้ n8n แบบ self-host อาจจะปลอดภัยที่สุด แต่ก็ต้องมีคนดูแลระบบนะ

6. AI Features: มาก vs น้อย vs ปานกลาง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่า ทั้ง Make, Zapier และ n8n สามารถเชื่อมต่อกับ AI อย่าง ChatGPT, Claude หรือตัวอื่นๆ ได้หมดเลย ไม่มีปัญหาอะไร 555+ แต่วันนี้เรามาดูกันว่าแต่ละแพลตฟอร์มมี AI ของตัวเองที่ช่วยสร้าง workflow หรือ automation ให้เราได้ยังไงบ้าง

🔶️Make: ตอนนี้ยังไม่มี AI ที่ช่วยสร้าง workflow โดยตรงนะครับ แต่เขามี AI assistant ที่ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้งาน Make ได้ ช่วยประหยัดเวลาในการหาข้อมูลได้เยอะเลย

🔶️Zapier: เจ๋งสุดในเรื่องนี้เลยครับ เขามี AI ที่ชื่อว่า “Zapier AI” ที่สามารถ:
  – สร้าง Zap (workflow) จากคำอธิบายของเราได้
  – แนะนำ Zap ที่อาจจะมีประโยชน์กับเราจากการวิเคราะห์ Zap ที่เรามีอยู่
  – ช่วยแก้ไขปัญหาใน Zap ที่ไม่ทำงาน
  – สร้าง prompts สำหรับใช้กับ AI อื่นๆ โดยอัตโนมัติ

🔶️n8n: ยังไม่มี AI ที่ช่วยสร้าง workflow โดยตรงเหมือน Zapier ครับ แต่เขามี AI assistant ที่ช่วยตอบคำถามและให้คำแนะนำในการใช้งาน n8n ได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการ debug workflow ด้วย

ตัวอย่างหน้าจอของ n8n ครับ, ที่มา n8n

💡 ถ้าให้ผมวิเคราะห์ ตอนนี้ Zapier น่าจะเป็นผู้นำในเรื่อง AI ที่ช่วยสร้าง workflow นะครับ แต่ Make และ n8n ก็กำลังพัฒนาในส่วนนี้อยู่เหมือนกัน ถ้าคุณเป็นมือใหม่และอยากได้ AI ช่วยสร้าง automation Zapier น่าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ

การนำไปใช้งานจริง

💡 จากประสบการณ์ของผม ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ หรือเพิ่งเริ่มต้น Zapier ก็พอใช้ได้ครับ แต่พอธุรกิจโตขึ้น อยากได้อะไรที่ซับซ้อนกว่านี้ Make หรือ n8n น่าจะตอบโจทย์กว่า

  • Make (9/10): เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำ workflow ซับซ้อน แต่ไม่อยากเขียนโค้ด ราคาคุ้มค่า ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปร
  • Zapier (7/10): เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือคนที่ต้องการเชื่อมต่อแอพหลายๆ ตัวแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มี AI features ที่น่าสนใจ
  • n8n (8.5/10): เหมาะสำหรับองค์กรที่มีทีม IT และต้องการควบคุมข้อมูลเอง หรือคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง ยืดหยุ่นสูง รองรับงานซับซ้อนได้ดี

💡 ถ้าให้ผมแนะนำ:

  • ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นกับ automation ลองเล่น Zapier ดูก่อนก็ได้ครับ มันใช้ง่ายดี
  • ถ้าคุณทำธุรกิจส่วนตัวหรือ SME ผมว่า Make น่าจะคุ้มค่าที่สุด ทำอะไรซับซ้อนได้ แถมราคาไม่แพง
  • ถ้าคุณทำงานในบริษัทใหญ่ มีทีม IT ซัพพอร์ต และต้องการความปลอดภัยสูงสุด n8n น่าจะเหมาะที่สุดครับ

สุดท้ายนี้ คุณคิดว่าตัวไหนเหมาะกับคุณที่สุด? หรือถ้าใครมีประสบการณ์ใช้งานตัวไหนมาแล้ว มาแชร์กันได้เลยนะครับ ผมอยากรู้ว่าคนอื่นเขาคิดยังไงบ้าง 555+

ตัวอย่างการใช้งานของ Data-Espresso นะครับ

หน้าตาการใช้งานจริงด้วย Make ครับ



#AutomationPlatform #Make #Zapier #n8n #ProductivityHacks

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือก Automation Platform ที่เหมาะกับคุณได้ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม คอมเมนต์ถามได้เลยครับ ผมยินดีตอบทุกข้อสงสัย 😊

Apipoj Piasak
Apipoj Piasakhttp://data-espresso.com
AI Specialist, Data Engineer, Data Strategist, Data Scientist
RELATED ARTICLES

1 ความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img

Most Popular