วันพุธ, มีนาคม 12, 2025
spot_img
หน้าแรกMAKEMake.com เชื่อมต่อกับ Telegram: ทางเลือกทดแทน LINE Notify 🚀

Make.com เชื่อมต่อกับ Telegram: ทางเลือกทดแทน LINE Notify 🚀

- Advertisement -spot_img

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Data-Espresso! วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องที่หลายคนกำลังกังวล นั่นคือการที่ LINE Notify กำลังจะเลิกให้บริการในวันที่ 31 มีนาคม 2568 และ LINE Messaging API ที่ปรับราคาสูงขึ้น ทำให้หลายธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ แล้วทางเลือกที่น่าสนใจนั้นคืออะไร? คำตอบคือ Telegram Bot บน Make.com นั่นเอง! เราไปดูกันเลยครับว่าทำไมมันถึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า 555+

ทำไม Telegram Bot บน Make.com ถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า LINE Notify?

ผมว่ามีหลายบริษัทเลยที่ใช้ LINE Notify ในการทำ Notification หรือ Alert เพื่อแจ้งปัญหาการทำงาน การเลิกให้บริการของ Line Notify กำลังสร้างความปวดหัวให้หลายองค์กรแน่ๆ และการปรับราคาที่สูงขึ้นของ Messaging API ทำให้หลายคนมองหาทางเลือกอื่น ซึ่งจากการที่ผมได้ทดลอง ตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดตอนนี้คือ Telegram Bot ครับ!!

💡 ในความเห็นของผม: Telegram Bot บน Make.com น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการทดแทน LINE Notify เพราะไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้งานได้เหมือนเดิม หรือดีกว่าด้วยซ้ำ!

ลองมาเปรียบเทียบกันครับ:

คุณสมบัติLINE NotifyLINE Messaging APITelegram Bot
ค่าใช้จ่ายฟรี (แต่กำลังจะปิด)ใช้ฟรี 300 Message และ มีค่าใช้จ่าย (1,780 บาท/เดือนสำหรับแพ็กเกจ Pro)ฟรี 100%
ข้อจำกัดข้อความจำกัด– ฟรี 300 ข้อความ
– แพ็กเกจโปร จำกัด 35,000 ข้อความ/เดือน
ไม่จำกัด
(แต่มี rate limit)
ความสามารถแจ้งเตือนทางเดียวโต้ตอบได้ มีฟีเจอร์เพิ่มเติมโต้ตอบได้ ส่งสื่อได้หลากหลาย
การตั้งค่าง่ายต้องทำบน Line OA / Developer Consoleทำผ่าน Chat ที่เดียว
ความยั่งยืนกำลังจะยุติบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตเช่นกัน

เริ่มต้นใช้งาน Telegram Bot แทน LINE Notify

การย้ายจาก LINE Notify มาใช้ Telegram Bot ไม่ได้ยากอย่างที่คิด มาดูขั้นตอนง่ายๆ กันครับ:

1. ติดตั้งและสมัคร Telegram

การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

  • สำหรับ iOS: เข้าไปที่ App Store และค้นหาคำว่า “Telegram”
  • สำหรับ Android: เข้าไปที่ Google Play Store และค้นหาคำว่า “Telegram”
  • กดปุ่ม “Install” หรือ “ติดตั้ง” เพื่อดาวน์โหลดแอปลงเครื่องเป็นอันเรียบร้อยครับ

การลงทะเบียนใช้งาน

  • เปิดแอป Telegram และกดปุ่ม “Start Messaging”
  • เลือกประเทศของคุณ (สำหรับประเทศไทยให้ค้นหาคำว่า “th” และเลือก Thailand (+66))
  • ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ (ไม่ต้องใส่เลข 0 นำหน้า)
  • กดปุ่มยืนยัน (ปุ่ม “Done” หรือเครื่องหมายถูก)
  • ระบบจะส่งรหัส OTP ไปยังเบอร์โทรศัพท์ของคุณทาง SMS
  • ใส่รหัส OTP ที่ได้รับ (บางครั้งระบบอาจเติมรหัสให้อัตโนมัติ)
  • กรอกชื่อและนามสกุลของคุณ
  • เพิ่มรูปโปรไฟล์ (ขั้นตอนนี้สามารถทำภายหลังได้)

สำหรับคนที่ต้องการการสมัครแบบละเอียดสามารถดูได้ที่นี่ครับ รายละเอียดครบเลย https://files.urbanice.app/upload/Urbanice_Telegram_Notify.pdf

2. สร้าง Telegram Bot

ไปที่ Link นี้ครับเพื่อ แชทกับ BotFather https://telegram.me/BotFather

  1. หรือเปิด Telegram ขึ้นมาแล้วพิมพ์ค้นหา “BotFather” ใน Telegram และเริ่มแชท
  2. พิมพ์ /newbot เพื่อสร้างบอทใหม่
  3. ตั้งชื่อให้บอทของคุณ และตั้ง username (ต้องลงท้ายด้วย “bot”)
  4. บันทึก token ที่ได้รับไว้ (นี่คือ API key ของคุณ)

#funfact ในขณะที่ LINE มีขั้นตอนการสร้าง API ที่ซับซ้อนต้องทำหลายขั้นตอน หลายที่ แต่ Telegram สามารถสร้างบอทได้ในไม่กี่นาที ไม่ต้องรออนุมัติใดๆ! 555+

3. สร้างกลุ่มหรือแชนแนลใน Telegram

คุณสามารถเลือกได้ว่าจะส่งข้อความแจ้งเตือนไปที่:

  • แชทส่วนตัวกับบอท (ง่ายที่สุด)
  • Group กลุ่มที่มีบอทอยู่ด้วย (สำหรับทีมงาน)
  • Channel (สำหรับการกระจายข่าวสาร)

4. เชื่อมต่อ Telegram Bot กับ Make.com

ทีนี้มาเชื่อมกับ Make.com กันบ้าง:

  1. สร้าง Scenario ใหม่ใน Make.com ถ้ายังไม่มีสมัครได้ที่นี่ครับ
  2. เลือกโมดูล Telegram Bot -> Send a Text Message or a Reply
  3. คลิก Create a connection หรือ Add Connection
  4. ใส่ token ที่ได้จาก BotFather
  5. ตั้งชื่อการเชื่อมต่อ (เช่น “My Telegram Bot”)
  6. กด Save เพื่อบันทึก

เท่านี้ก็เรียบร้อย! คุณได้เชื่อมต่อ Make.com กับ Telegram Bot แล้วครับ

💡 จากประสบการณ์ส่วนตัว: ผมแนะนำให้ตั้งชื่อการเชื่อมต่อที่เข้าใจง่าย โดยเฉพาะถ้าคุณมีหลาย bot ในองค์กรเดียวกัน จะช่วยให้จัดการได้ง่ายขึ้นมากครับ

5. การหา Chat ID และ User ID 🔍

หนึ่งในประเด็นที่ทำให้หลายคนงงตอนเริ่มต้นคือการหา Chat ID และ User ID ซึ่งจำเป็นในการส่งข้อความ:

วิธีหา User ID:

  1. ส่งข้อความจากผู้ใช้ที่ต้องการหา ID ไปยัง @userinfobot ที่ https://telegram.me/userinfobot
  2. บอทจะตอบกลับด้วย User ID ให้จดและนำไปใช้ครับ นี่คือ ID ของเรา

วิธีหา Chat ID ของ Group:

  1. เพิ่มบอทเป็นแอดมินในกลุ่ม
  2. ส่งข้อความในกลุ่มนั้น
  3. ใช้โมดูล Watch Updates ใน Make.com เพื่อดู Chat ID ในข้อมูลที่ได้รับ

Note: สำหรับ Group จะได้ ID จะมีรูปแบบเป็น -100ตามด้วยตัวเลขครับ

ทดสอบส่งข้อความ:

  • นำ Chat ID ที่ได้มาใส่ใน Module ของ Telegram
  • ใส่ข้อความที่ต้องการทดสอบ
  • จากนั้นกด Run once เพื่อดูผลลัพธ์

การสร้าง Use Cases ที่น่าสนใจ

มาดูตัวอย่างการใช้งานจริงกันบ้างครับ ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างเมื่อเชื่อม Make.com กับ Telegram:

1. ระบบ Alert แจ้งเตือนธุรกิจอัตโนมัติ 🔔

เราสามารถสร้างระบบแจ้งเตือนได้ง่ายๆ เช่น:

  • แจ้งเตือนเมื่อมีลูกค้าใหม่ลงทะเบียน
  • แจ้งเตือนเมื่อมียอดขายเกิดขึ้น
  • แจ้งเตือนเมื่อมีข้อความติดต่อผ่านเว็บไซต์

ตัวอย่างง่ายๆ: เมื่อมีคนกรอกแบบฟอร์มติดต่อในเว็บไซต์ของเรา (Google Forms) → Make.com จะรับข้อมูล → แล้วส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Telegram ทันที พร้อมข้อมูลที่ลูกค้ากรอกมา

2. อัพเดทข้อมูลระหว่างทีมงาน 👨‍💼👩‍💼

ใช้ Telegram Bot เป็นตัวกลางในการแจ้งข้อมูลสำคัญให้ทีม:

  • สรุปยอดขายประจำวัน
  • รายงานปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ
  • แจ้งเตือนงานที่ต้องทำ

ตัวอย่าง: ทุกเย็น 5 โมง Make.com จะดึงข้อมูลยอดขายจากระบบ → สร้างรายงานสรุป → ส่งให้กลุ่มผู้บริหารใน Telegram อัตโนมัติ

ทั้งหมดนี้ทำได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยครับ เพียงแค่ลากและวางโมดูลใน Make.com เท่านั้น!

ข้อควรระวังเมื่อย้ายจาก LINE Notify มาใช้ Telegram Bot

แม้ว่า Telegram Bot จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีสิ่งที่ต้องระวังบ้าง:

1. การเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้

หากองค์กรหรือทีมของคุณคุ้นเคยกับ LINE Notify อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว:

  • แนะนำให้ติดตั้ง Telegram และเรียนรู้วิธีใช้งานเบื้องต้น
  • ทดสอบระบบให้มั่นใจก่อนยกเลิก LINE Notify อย่างสมบูรณ์
  • ให้เวลาทีมในการปรับตัวและรับฟังคำแนะนำ

2. ข้อจำกัดของ Telegram Bot

แม้จะมีข้อดีมากกว่า แต่ Telegram Bot ก็มีข้อจำกัดบางประการ:

  • มี rate limit ในการส่งข้อความ (ไม่เกิน 30 ข้อความ/วินาที)
  • ผู้ใช้ต้องเริ่มการสนทนากับบอทก่อน จึงจะสามารถรับข้อความได้
  • การใช้งานในประเทศไทยมีผู้ใช้น้อยกว่า LINE (สำหรับการใช้งานภายในองค์กรไม่มีผลกระทบ)

3. การเตรียมความพร้อมก่อน LINE Notify ปิดตัว

LINE Notify จะปิดให้บริการในวันที่ 31 มีนาคม 2568 คุณควร:

  • วางแผนการย้ายระบบล่วงหน้า
  • ทดสอบระบบใหม่ควบคู่ไปกับระบบเดิมก่อนการยกเลิก
  • แจ้งให้ทีมงานทราบและเตรียมความพร้อม

💡 จากประสบการณ์ส่วนตัว: ผมแนะนำให้เริ่มทดสอบระบบ Telegram Bot คู่ขนานไปกับ LINE Notify ที่ใช้อยู่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้ตามที่ต้องการ ก่อนจะตัดสินใจย้ายระบบทั้งหมด

สร้าง Workflow ทดแทน LINE Notify ด้วย Make.com

มาสร้าง workflow อย่างง่ายเพื่อทดแทน LINE Notify กันครับ:

  1. เริ่มต้นที่ Make.com:
    • สร้าง scenario ใหม่
    • เลือก trigger ที่เหมาะสม (เช่น Webhook, HTTP, Google Sheets ฯลฯ)
  2. กำหนดการทำงาน:
    • สร้างเงื่อนไขที่ต้องการให้ส่งการแจ้งเตือน
    • จัดเตรียมข้อมูลและ format ข้อความให้เหมาะสม
  3. เชื่อมต่อกับ Telegram Bot:
    • เพิ่มโมดูล Telegram Bot > Send a Text Message
    • กำหนด Chat ID และข้อความที่ต้องการส่ง
    • เพิ่มการจัดรูปแบบข้อความด้วย Markdown หรือ HTML
  4. ทดสอบและเปิดใช้งาน:
    • ทดสอบ scenario ว่าทำงานถูกต้อง
    • เปิดใช้งานและตั้งเวลาการทำงานตามที่ต้องการ

ลองนึกภาพว่า ระบบเดิมที่คุณใช้ LINE notify token เพื่อส่งข้อความ ตอนนี้คุณเพียงแค่เปลี่ยนมาใช้ Telegram Bot token และ Chat ID เท่านั้น!

สรุป

การยุติบริการของ LINE Notify และการปรับราคาของ LINE Messaging API ที่สูงขึ้น อาจเป็นความท้าทายสำหรับหลายองค์กร แต่ก็เป็นโอกาสดีในการมองหาทางเลือกที่ดีกว่า

Telegram Bot บน Make.com ไม่เพียงแต่ทดแทนความสามารถของ LINE Notify ได้ทั้งหมด แต่ยังมอบประสบการณ์และความสามารถที่เหนือกว่าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยให้องค์กรประหยัดงบประมาณและเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและแจ้งเตือนได้อย่างมาก

ถ้าให้ผมให้คะแนนความคุ้มค่าในการเปลี่ยนจาก LINE Notify มาใช้ Telegram Bot ผมให้ 10/10 เลยครับ! เพราะนอกจากจะฟรีแล้ว ยังมีความสามารถที่มากกว่า และไม่มีความเสี่ยงว่าจะปิดตัวในเร็วๆ นี้

อย่ารอให้ LINE Notify ปิดตัวก่อนแล้วค่อยรีบหาทางออก เริ่มวางแผนและทดลองใช้ Telegram Bot กับ Make.com ตั้งแต่วันนี้ เพื่อการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นและไม่กระทบกับการทำงานครับ!

#dataespresso #automation #telegram #makecom #nocode #linenotify #alternativetoline

Short Link: https://data-espresso.com/uk42
Apipoj Piasak
Apipoj Piasakhttp://data-espresso.com
AI Specialist, Data Engineer, Data Strategist, Data Scientist
RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img

Most Popular

สอบถามข้อมูล