DeepSeek R1: ผู้ท้าชิงใหม่ด้านการใช้เหตุผลของ AI ที่น่าจับตา

Generative AIDeepSeek R1: ผู้ท้าชิงใหม่ด้านการใช้เหตุผลของ AI ที่น่าจับตา

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Data-Espresso ทุกคน วันนี้เรามาคุยกันเรื่องที่กำลังร้อนแรงในวงการ AI กันครับ นั่นก็คือการเปิดตัวของ DeepSeek R1 โมเดล AI ตัวใหม่ที่มาแรงแซงทางโค้งจนทำเอาหลายคนต้องเหลียวมองกันเลยทีเดียว

DeepSeek R1 คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจ?

DeepSeek R1 เป็นโมเดล AI ตัวใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแข่งขันในด้านการใช้เหตุผล (reasoning) โดยเฉพาะ ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้หลายคนต้องหันมาสนใจก็คือ ความสามารถที่ใกล้เคียงกับ OpenAI o1 แต่มีต้นทุนที่ถูกกว่าถึง 27 เท่า! 🤯

💡 ในความเห็นของผม นี่เป็นการพลิกโฉมวงการ AI อย่างแท้จริง เพราะเราจะได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น และผู้ใช้งานก็จะได้ประโยชน์จากราคาที่ถูกลงด้วย

จุดเด่นของ DeepSeek R1 ที่น่าสนใจ

1. สถาปัตยกรรมที่ใช้ Sparse MoE

DeepSeek R1 ใช้วิธีการที่เรียกว่า Sparse MoE (Mixture of Experts) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยให้โมเดลสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการเรียนรู้แบบมีผู้สอน (supervised learning) มากนัก

2. ต้นทุนที่ถูกกว่ามาก

นี่คือจุดที่ทำให้หลายคนต้องตาโต DeepSeek R1 มีต้นทุนที่ถูกกว่า OpenAI o1 ถึง 27 เท่า! ลองมาดูตัวเลขกันครับ:

  • ค่า Input token ต่อล้าน tokens:
    • DeepSeek R1: $0.14 (cached), $0.55 (non-cached)
    • OpenAI o1: $7.50 (cached), $15.0 (non-cached)
  • ค่า Output token ต่อล้าน tokens:
    • DeepSeek R1: $2.19
    • OpenAI o1: $60

3. สามารถ Distill เป็นโมเดลขนาดเล็กได้

DeepSeek R1 เป็นโมเดลโอเพนซอร์ส ทำให้สามารถนำไป distill เป็นโมเดลขนาดเล็กได้ ซึ่งตอนนี้มีโมเดลขนาด 1.5B ถึง 7B ที่สามารถรันบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้แล้ว

4. ประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ

ถึงแม้จะมีต้นทุนที่ถูกกว่ามาก แต่ประสิทธิภาพของ DeepSeek R1 ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า OpenAI o1 เลย โดยเฉพาะในด้านการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์และการเขียนโค้ด

  • Percentile บน Codeforces:
    • DeepSeek R1: 96.3
    • OpenAI o1: 96.6
  • คะแนนบนชุดข้อสอบ AIME 2024 และ MATH 500:
    • DeepSeek R1: 79.8 (AIME 2024), 97.3 (MATH 500)
    • OpenAI o1: 79.2 (AIME 2024), 96.4 (MATH 500)
คะแนนผลการทดสอบ

ลองเข้าใช้งานได้ที่ https://chat.deepseek.com/

ผลกระทบต่อวงการ AI

การเปิดตัวของ DeepSeek R1 นี้อาจส่งผลกระทบต่อวงการ AI ในหลายด้าน:

  1. การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น: บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI อาจต้องปรับตัวและพัฒนาโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง
  2. การเข้าถึง AI ที่ง่ายขึ้น: ด้วยต้นทุนที่ถูกลง ทำให้บริษัทขนาดเล็กและนักพัฒนาอิสระสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ขั้นสูงได้ง่ายขึ้น
  3. นวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น: การแข่งขันที่สูงขึ้นอาจนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการ AI
  1. การใช้งาน AI ที่แพร่หลายมากขึ้น: ราคาที่ถูกลงอาจทำให้มีการนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น

💡 ในมุมมองของผม DeepSeek R1 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ AI ที่จะทำให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้งาน DeepSeek R1

ถึงแม้ว่า DeepSeek R1 จะมีจุดเด่นหลายอย่าง แต่ก็มีข้อควรระวังที่ผู้ใช้งานควรทราบ:

  1. การเซ็นเซอร์เนื้อหา: มีรายงานว่า DeepSeek R1 มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาบางอย่างตามนโยบายของรัฐบาลจีน ดังนั้นควรระมัดระวังในการใช้งาน โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา
  2. ความท้าทายในการนำไปใช้งานจริง: ถึงแม้ว่าตัวเลขประสิทธิภาพจะน่าประทับใจ แต่การนำไปใช้งานจริงอาจมีความท้าทายที่ไม่ได้ระบุในเอกสารทางการ
  3. ความเสถียรและการสนับสนุน: เนื่องจากเป็นโมเดลใหม่ อาจยังมีปัญหาด้านความเสถียรและการสนับสนุนที่ยังไม่สมบูรณ์เท่ากับโมเดลที่มีมานานแล้ว

เปรียบเทียบกับโมเดลอื่นๆ

นอกจาก OpenAI o1 แล้ว ยังมีโมเดลอื่นๆ ที่น่าสนใจในด้านการใช้เหตุผลเช่นกัน เช่น Gemini จาก Google และ Claude จาก Anthropic ซึ่งแต่ละโมเดลก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

💡 ผมคิดว่าการแข่งขันระหว่างโมเดลเหล่านี้จะทำให้เกิดการพัฒนาที่รวดเร็วในวงการ AI และผู้ใช้งานจะได้ประโยชน์จากการมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น

สรุป

DeepSeek R1 เป็นโมเดล AI ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในปี 2024 นี้ ด้วยความสามารถที่ใกล้เคียงกับ OpenAI o1 แต่มีต้นทุนที่ถูกกว่ามาก ทำให้มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงวงการ AI อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังในการใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องการเซ็นเซอร์เนื้อหาและความท้าทายในการนำไปใช้งานจริง ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทดลองใช้งานด้วยความระมัดระวัง

สุดท้ายนี้ ผมเชื่อว่าการแข่งขันในตลาด AI จะทำให้เกิดการพัฒนาที่รวดเร็วและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในระยะยาว เราอาจได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นในอนาคตอันใกล้นี้

แล้วคุณล่ะครับ คิดว่า DeepSeek R1 จะสามารถแข่งขันกับ OpenAI o1 ได้จริงหรือไม่? และคิดว่าจะส่งผลกระทบต่อวงการ AI อย่างไรบ้าง? แชร์ความคิดเห็นกันได้ในคอมเมนต์เลยครับ 😊

#AI #DeepSeekR1 #OpenAIo1 #MachineLearning


อ้างอิง:
[1] https://www.linkedin.com/posts/sidxsriram_can-deepseek-r1-become-the-next-best-reasoning-activity-7287932795354583041-bH6l

#datascience #generativeai #genai #dataespresso

.

Related articles

ถ้าอยากจะสร้าง LLM Model เองต้องทำยังไง? คู่มือสร้าง LLM ฉบับเข้าใจง่าย

เรียนรู้ขั้นตอนการสร้าง LLM โมเดลเอง ตั้งแต่การเตรียมข้อมูล การฝึกโมเดล ไปจนถึงการนำไปใช้งานจริง พร้อมเทคนิคและเครื่องมือที่จำเป็น

การใช้ AI ช่วยในการเขียนหนังสือ และการตรวจสอบเนื้อหาจาก AI: คู่มือครบจบสำหรับนักเขียนยุคใหม่

เรียนรู้วิธีใช้ AI ช่วยเขียนหนังสือและตรวจสอบเนื้อหาอย่างมืออาชีพ พร้อมเครื่องมือแนะนำและเทคนิคปฏิบัติจริงสำหรับผู้ประกอบการและทีมงาน

Perplexity เปิดตัว Labs: เขย่าวงการ AI ด้วยเครื่องมือสร้างคอนเทนต์แห่งอนาคต

Perplexity Labs คืออะไร? ค้นพบศักยภาพเครื่องมือ AI ใหม่จาก Perplexity ที่สร้างได้ทั้งรายงาน สเปรดชีต แดชบอร์ด และเว็บแอปฯ พร้อมวิธีที่ธุรกิจคุณจะนำไปใช้ประโยชน์ในการทำ AI consulting และ AI automation workflows

เจาะลึกผลกระทบ AI ต่อการเลิกจ้างพนักงานออฟฟิศ และแนวทางปรับตัวสำหรับอนาคต

AI กำลังเปลี่ยนโลกการทำงาน พนักงานออฟฟิศจะรับมืออย่างไร? บทความนี้วิเคราะห์ผลกระทบ AI ต่อการจ้างงาน ตำแหน่งที่เสี่ยง พร้อมข้อแนะนำสำหรับพนักงานและองค์กรในการปรับตัวเพื่ออนาคต

Meta เปิดตัว Llama 4: AI รุ่นใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม

Meta เปิดตัว Llama 4 รุ่น Maverick และ Scout พร้อมความสามารถใหม่ๆ ทั้งการประมวลผลภาพ วิดีโอ และภาษา ด้วย context window ถึง 10 ล้านโทเค็น

Related Article

การใช้ Claude Desktop MCP เชื่อมต่อกับ Notion ผ่าน smithery.ai – คู่มือฉบับสมบูรณ์

เรียนรู้วิธีตั้งค่าและใช้งาน Claude Desktop MCP เพื่อเชื่อมต่อกับ Notion ผ่าน smithery.ai ทีละขั้นตอน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการสร้าง AI workflow automation เพื่อจัดการงานและข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

Google เปิดตัว Gemini CLI AI Coding Agent ตัวใหม่ เปลี่ยนเกมการเขียนโค้ด

Google เปิดตัว Gemini CLI AI Coding Agent ใหม่ที่ทำงานใน terminal ฟรีสำหรับนักพัฒนา พร้อมฟีเจอร์เขียนโค้ด debug และจัดการไฟล์ด้วย AI

Claude Code เครื่องมือที่ผมชอบมากตอนนี้: ปฏิวัติวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย AI

รู้จักกับ Claude Code เครื่องมือ AI ที่ช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทำงานได้เร็วขึ้น ตั้งแต่แก้บั๊ก สร้างโค้ด จนถึงจัดการ Git ผ่าน Command Line อย่างง่ายดาย
สอบถามข้อมูล