Make.com ฟรี: ข้อจำกัดและการใช้งานพื้นฐานที่ควรรู้

MAKEMake.com ฟรี: ข้อจำกัดและการใช้งานพื้นฐานที่ควรรู้

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว Data Espresso ทุกคน! 👋

วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง Make.com กันอีกแล้วนะครับ โดยเฉพาะเรื่องของแผนฟรีที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง แล้วจะใช้งานยังไงให้คุ้มค่าที่สุด

ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Make.com มาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้จักดีนัก Make.com เป็นเครื่องมือสร้างระบบอัตโนมัติที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ซึ่งก็คล้าย ๆ กับ Zapier นั่นเองครับ

วิธีสมัครใช้งาน Make.com นั้นง่ายมาก ๆ และฟรีด้วยนะครับ แต่เราต้องรู้ก่อนว่าแผนฟรีนั้นมีข้อจำกัดอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ข้อจำกัดของ Make.com แบบฟรี

1. จำนวน API Token

เดิมทีแผนฟรีของ Make.com จำกัดจำนวน API Token ไว้ที่แค่ 5 token เท่านั้น แต่ตอนนี้มีข่าวดีแล้วครับ! ทาง Make.com ได้เพิ่มจำนวน API Token เป็น 100 token แล้ว 🎉

💡 ความเห็นส่วนตัว: การเพิ่มจำนวน API Token นี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยครับ เพราะช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้มากขึ้น ทำให้การสร้าง Automation ทำได้หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น

2. จำนวนครั้งในการรัน Scenario

แผนฟรีของ Make.com จะจำกัดจำนวนครั้งในการรัน Scenario ไว้ด้วย ซึ่งตรงนี้เราต้องระวังนิดนึงนะครับ เพราะถ้าเรามี Scenario ที่ทำงานไม่สมบูรณ์บ่อย ๆ มันอาจจะทำให้เราใช้โควต้าหมดเร็วกว่าที่ควรได้

ตัวอย่างง่าย ๆ: สมมติว่าเรามี Scenario ที่ดึงข้อมูลจาก Google Sheets ทุก ๆ 5 นาที แต่บางครั้งมันเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ ทำให้ Scenario ทำงานไม่สมบูรณ์ แบบนี้ก็จะนับเป็น 1 ครั้งในการรันเช่นกัน

3. พื้นที่เก็บข้อมูล

แผนฟรีของ Make.com มีพื้นที่เก็บข้อมูลจำกัด ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการทำ Automation ขนาดใหญ่หรือเก็บข้อมูลจำนวนมาก

💡 ทิปจากประสบการณ์: ผมแนะนำให้คุณใช้บริการเก็บข้อมูลภายนอกอย่าง Google Drive หรือ Dropbox แทนการเก็บข้อมูลใน Make.com โดยตรง จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลยครับ

การใช้งานพื้นฐานของ Make.com

1. สร้าง Scenario แรกของคุณ

การสร้าง Scenario ใน Make.com นั้นง่ายมาก ๆ ครับ เหมือนกับการต่อเลโก้เลย! 😄

  1. คลิกที่ปุ่ม “Create a new scenario”
  2. เลือกแอปพลิเคชันที่คุณต้องการเชื่อมต่อ
  3. ลากโมดูลมาวางบนพื้นที่ทำงาน
  4. กำหนดค่าต่าง ๆ ในแต่ละโมดูล
  5. เชื่อมต่อโมดูลเข้าด้วยกัน
  6. ทดสอบ Scenario ของคุณ

2. การใช้ Filter

Filter เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญมาก ๆ ใน Make.com ครับ มันช่วยให้เราสามารถกรองข้อมูลที่จะส่งไปยังโมดูลถัดไปได้

ตัวอย่าง: สมมติว่าเรามี Scenario ที่ดึงข้อมูลลูกค้าจาก Google Sheets แล้วส่งอีเมลเฉพาะลูกค้าที่มียอดซื้อมากกว่า 10,000 บาท เราก็สามารถใช้ Filter เพื่อกรองเฉพาะลูกค้าที่มียอดซื้อตามเงื่อนไขนี้ได้

3. การใช้ Router

Router เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถแยกการทำงานออกเป็นหลาย ๆ เส้นทางได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เรากำหนด

ตัวอย่าง: เราอาจจะมี Scenario ที่รับข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า แล้วใช้ Router เพื่อแยกว่า:

  • ถ้าเป็นลูกค้า VIP ให้ส่งข้อมูลไปยังทีมบริการลูกค้าพิเศษ
  • ถ้าเป็นการสั่งซื้อครั้งแรก ให้ส่งอีเมลต้อนรับ
  • ถ้าเป็นการสั่งซื้อปกติ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ

เทคนิคการใช้งาน Make.com ให้คุ้มค่า

1. ใช้ Aggregator อย่างชาญฉลาด

Aggregator เป็นโมดูลที่ช่วยรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งเข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถช่วยลดจำนวนครั้งในการรัน Scenario ได้

ตัวอย่าง: แทนที่จะส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการอัพเดทข้อมูล เราอาจจะใช้ Aggregator เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งวัน แล้วค่อยส่งอีเมลสรุปเพียงครั้งเดียวตอนสิ้นวัน

2. ใช้ Webhook อย่างมีประสิทธิภาพ

Webhook ช่วยให้ Scenario ของเราทำงานเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แทนที่จะต้องรันตามเวลาที่กำหนด ซึ่งช่วยประหยัดจำนวนครั้งในการรัน Scenario ได้มาก

💡 ทิปจากผม: ลองใช้ Webhook ในการรับข้อมูลจากแอปพลิเคชันอื่น ๆ เช่น เมื่อมีการกรอกฟอร์มใน Google Forms หรือเมื่อมีการอัพเดทข้อมูลใน Airtable

3. ทำความเข้าใจกับ Data Structures

Data Structures ใน Make.com ช่วยให้เราสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดและทำให้ Scenario ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่าง: ถ้าเรามีข้อมูลลูกค้าที่ประกอบด้วยชื่อ, อีเมล, และประวัติการสั่งซื้อ เราสามารถสร้าง Data Structure เพื่อจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเป็นระเบียบ

สรุป

Make.com เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมาก ๆ ในการสร้างระบบอัตโนมัติ แม้ว่าแผนฟรีจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ถ้าเรารู้จักใช้งานอย่างชาญฉลาด ก็สามารถสร้าง Automation ที่มีประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องเสียเงิน

💡 ความเห็นส่วนตัว: ผมคิดว่า Make.com เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำ Automation แต่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ด มันช่วยให้เราเห็นภาพรวมของระบบอัตโนมัติได้ง่าย และยังสามารถขยายการใช้งานได้เมื่อเราพร้อมที่จะอัพเกรดเป็นแผนที่สูงขึ้น

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้ทุกคนลองเล่น Make.com ดูนะครับ การใช้งานและราคาของ Make.com นั้นค่อนข้างยืดหยุ่น เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้ใช้งานขั้นสูง ลองดูแล้วคุณจะรู้สึกว่าการทำ Automation นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด! 😊

แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด! 👋

#Make.com #Automation #NoCode

#datascience #generativeai #genai #dataespresso

.

Short Link: https://data-espresso.com/0vtd

Related articles

อัปเดตใหญ่ Make.com กันยายน 2025: เจาะลึกฟีเจอร์ AI และ Automation ที่จะเปลี่ยนธุรกิจคุณ

สรุปฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Make.com ประจำเดือนกันยายน 2025 ทั้ง Make AI Toolkit, การเชื่อมต่อ API ที่ง่ายขึ้น และแอปใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจคุณทำงานอัตโนมัติและฉลาดขึ้น

สอน Make.com ฟรี: คู่มือเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ 2025

เริ่มต้นใช้ Make.com สร้าง automation workflow แบบ no-code ง่ายๆ ด้วยคู่มือเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ พร้อมตัวอย่างจริงที่ใช้ได้เลย

Make AI Content Extractor: เครื่องมือใหม่ สลายกองเอกสารให้เป็นข้อมูลพร้อมใช้ด้วย AI

แนะนำเครื่องมือใหม่ Make AI Content Extractor ที่ช่วยดึงข้อมูลจากไฟล์ PDF, Word, รูปภาพ, และเสียง ให้เป็นข้อมูลพร้อมใช้ใน Make.com ลดขั้นตอนทำงานซ้ำซ้อน!

เชื่อมต่อ Make.com กับ Trello: สร้าง Workflow อัตโนมัติ จัดการงานขั้นเทพ

เรียนรู้วิธีเชื่อมต่อ Make.com กับ Trello แบบ Step-by-Step เพื่อสร้าง Workflow อัตโนมัติ ประหยัดเวลา และจัดการโปรเจกต์อย่างมืออาชีพ ไม่ต้องเขียนโค้ด!

ให้ AI และ Make.com ช่วยทำงานที่ซ้ำๆ: ปลดล็อกศักยภาพระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ

ค้นพบวิธีใช้ AI และ Make.com สร้างระบบอัตโนมัติที่ช่วยจัดการงานซ้ำซาก ลดเวลาทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริงและเทคนิคการตั้งค่า AI Agents

Related Article

รีวิว Perplexity Comet: เมื่อเบราว์เซอร์ AI ทำให้ผมแทบไม่อยากกลับไปใช้ Chrome

เจาะลึก Perplexity Comet เบราว์เซอร์ AI ที่เปลี่ยนการค้นหาข้อมูลแบบเดิมๆ สรุปเนื้อหา ถามตอบได้ทันที เหมาะกับใคร? คุ้มไหมที่จะใช้แทน Chrome? อ่านรีวิวฉบับเต็ม

Anthropic เปิดตัว Claude Agent SDK: สร้าง Agent อัจฉริยะง่ายๆ เพื่อธุรกิจยุคใหม่

เจาะลึก Claude Agent SDK จาก Anthropic เครื่องมือสร้าง AI Agent อัจฉริยะ ที่จะมาปฏิวัติ Workflow Automation และช่วยให้ธุรกิจของคุณทำงานได้อัตโนมัติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

OpenAI เปิดตัว AgentKit: เครื่องมือสร้าง AI Agent ที่จะเปลี่ยนโลกธุรกิจ

เจาะลึก AgentKit จาก OpenAI เครื่องมือสร้าง AI Agent แบบ Low-code ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างระบบอัตโนมัติได้ง่ายและทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อมใช้งานกับ ChatGPT 5
สอบถามข้อมูล