สรุป Spark the Next Big Thing: อัปเดต AI ล่าสุดจาก Google Cloud Next ‘2025 ที่ธุรกิจต้องรู้
เวลาอ่านโดยประมาณ: 6 นาที
Key Takeaways:
- การมาถึงของ Gemini 2.5: Google ประกาศความพร้อมใช้งานของโมเดล AI ขั้นสูง Gemini 2.5 บน Vertex AI ทำให้ทั้งนักพัฒนาและภาคธุรกิจเข้าถึงเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังได้ง่ายขึ้น
- กรณีศึกษาที่สร้างผลกระทบจริง: มีการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จจากบริษัทระดับโลก เช่น The Sphere และ WPP ซึ่งใช้ AI ในการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าและขับเคลื่อนแคมเปญการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- AI ปฏิวัติการทำงานของนักพัฒนา: Google ได้สาธิตวิธีที่ AI, โดยเฉพาะระบบ Multi-agent, สามารถเพิ่ม Productivity และเร่งกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้อย่างก้าวกระโดด
- ความแข็งแกร่งของ Ecosystem: การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำอย่าง Accenture, BCG, และ Deloitte เป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันให้องค์กรต่างๆ นำ AI ไปปรับใช้ในวงกว้างและประสบความสำเร็จ
ในยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า งาน Google Cloud Next Extended Bangkok 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2025 ณ ศูนย์ Knowledge Xchange (KX) จึงเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ session ไฮไลท์อย่าง “Spark the Next Big Thing: AI at Google Cloud Next ‘2025” ที่เป็นการย่อยข่าวสารและนวัตกรรมล่าสุดที่ประกาศในงานใหญ่ ณ ลาสเวกัส มาสู่บริบทที่จับต้องได้สำหรับนักพัฒนาและธุรกิจในประเทศไทย
ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกเนื้อหาสำคัญจาก session ดังกล่าวว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง และนวัตกรรมเหล่านี้จะส่งผลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมและธุรกิจของคุณอย่างไร
นวัตกรรม AI ล่าสุด: Gemini 2.5 บน Vertex AI
หัวใจสำคัญของงานในครั้งนี้คือการประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญของโมเดล AI อย่าง Gemini 2.5 ซึ่งปัจจุบันพร้อมให้บริการแล้วบนแพลตฟอร์ม Vertex AI แล้วครับ 💡 ในความเห็นของผม นี่คือการเคลื่อนไหวที่สำคัญซึ่งส่งสัญญาณชัดเจนว่า Google ต้องการทลายกำแพงระหว่างเทคโนโลยี AI ที่ซับซ้อนกับผู้ใช้งานทั่วไป
Vertex AI คือแพลตฟอร์ม Machine Learning (ML) แบบครบวงจรของ Google ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้าง, ฝึกฝน, และปรับใช้โมเดล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่ Gemini 2.5 เข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มนี้หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชัน AI สุดล้ำ หรือเป็นธุรกิจที่ต้องการนำ Generative AI มาปรับใช้กับกระบวนการทำงาน ก็สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกก้าวที่น่าสนใจต่อจากที่เราเคยเห็นในงาน สรุปงาน Google I/O 2025 ก่อนหน้านี้
กรณีศึกษาที่จับต้องได้: AI สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างไร
สิ่งที่ทำให้เรื่องราวของ AI น่าตื่นเต้นไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือผลลัพธ์ที่มันสร้างขึ้นจริง ใน session นี้มีการยกตัวอย่างที่น่าสนใจจากลูกค้าของ Google ที่นำ AI ไปใช้จนเกิดประโยชน์ทางธุรกิจที่วัดผลได้จริง
- The Sphere ในลาสเวกัส: สถานที่จัดแสดงความบันเทิงสุดล้ำที่ใช้ Generative AI ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ภาพและเสียงที่สมจริงและตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชม นับเป็นการใช้ AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างแท้จริง
- WPP (Wire and Plastic Products): บริษัทโฆษณาและการตลาดระดับโลกที่ใช้แพลตฟอร์ม AI ของ Google Cloud ในการขับเคลื่อนแคมเปญการตลาดทั่วโลก ช่วยให้การสร้างสรรค์และปรับแต่งแคมเปญสำหรับตลาดท้องถิ่นต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า AI ไม่ใช่แค่ของเล่นสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างมูลค่าและมอบความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับธุรกิจได้จริง
พลิกโฉมการทำงานของนักพัฒนาด้วย AI
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการสาธิตให้เห็นว่า AI สามารถปฏิวัติกระบวนการทำงานของนักพัฒนา (Developer Workflows) ได้อย่างไร Google ได้แสดงให้เห็นถึงการนำระบบ Multi-agent มาใช้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ให้ AI Agent หลายตัวทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ทำให้การพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆ ตั้งแต่การเขียนโค้ด, การทดสอบ, ไปจนถึงการดีบัก ทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างมหาศาล
เรื่องนี้สอดคล้องกับเทรนด์ที่เราเห็นจากเครื่องมืออื่นๆ เช่น BigQuery Data Engineer Agent ที่ใช้ AI มาช่วยลดระยะเวลาการทำงานของ Data Engineer จากหลักสัปดาห์ให้เหลือเพียงหลักนาที สำหรับธุรกิจแล้ว นี่หมายถึงการลดต้นทุนและเร่ง Time-to-market ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล
พลังของ Ecosystem และความสำคัญต่อธุรกิจไทย
Google เน้นย้ำว่าการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กรให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจาก Ecosystem ของพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำอย่าง Accenture, BCG, Deloitte และอีกมากมาย ที่เข้ามามีบทบาทในการร่วมพัฒนาโซลูชันและให้คำปรึกษา เพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถวางกลยุทธ์และนำ AI ไปปรับใช้ได้อย่างราบรื่น
สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME และหัวหน้าทีมในประเทศไทย นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าเทคโนโลยี AI กำลังเข้าใกล้ตัวคุณมากขึ้นกว่าเดิม การมีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้อย่างมาก
ที่ Data-Espresso เรามีความเชี่ยวชาญด้าน AI consulting และการสร้าง AI automation workflows เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถนำศักยภาพของ AI มาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน, ลดต้นทุน และสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
เริ่มต้นนำ AI มาปรับใช้กับธุรกิจของคุณวันนี้
การอัปเดตจากงาน Google Cloud Next ‘2025 ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงทิศทางของโลกเทคโนโลยีที่ชัดเจนว่า AI คืออนาคตที่มาถึงแล้ว คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ “ว่า” เราควรจะใช้ AI หรือไม่ แต่เป็น “อย่างไร” และ “เมื่อไหร่”
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ, ผู้บริหาร, หรือหัวหน้าทีมที่กำลังมองหาโอกาสในการนำเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เราขอแนะนำให้เริ่มต้นจากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญครับ
ติดต่อทีมงาน Data-Espresso เพื่อรับคำปรึกษาเบื้องต้นได้เลยที่ www.data-espresso.com หรือ Add LINE: @data-espresso เราพร้อมที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานเก่งๆ ที่ช่วยให้คุณเข้าใจเรื่อง Data/AI ได้ง่ายๆ เหมือนนั่งคุยกันบนโต๊ะกาแฟ ☕
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ประกาศที่สำคัญที่สุดใน session นี้คืออะไร?
ประกาศที่สำคัญที่สุดคือการเปิดให้ใช้งานโมเดล AI Gemini 2.5 บนแพลตฟอร์ม Vertex AI อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้การเข้าถึงและพัฒนาโซลูชัน AI สำหรับธุรกิจเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. เทคโนโลยี AI เหล่านี้เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นหรือไม่?
ไม่ใช่เลยครับ แม้ตัวอย่างที่ยกมาจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ แต่เครื่องมืออย่าง Vertex AI ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงได้ทั้งสำหรับนักพัฒนาอิสระและธุรกิจทุกขนาด ประกอบกับการมี Ecosystem ของพาร์ทเนอร์ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ทำให้ SME สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้ได้เช่นกัน
3. ฉันจะเริ่มต้นนำ AI มาใช้ในธุรกิจของตัวเองได้อย่างไร?
คำแนะนำคือให้เริ่มต้นจากการระบุปัญหาหรือกระบวนการที่ชัดเจนที่คุณต้องการปรับปรุง (เช่น การตอบคำถามลูกค้า, การจัดการสต็อก, การวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด) จากนั้นจึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางกลยุทธ์และเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับเป้าหมายและงบประมาณของคุณ
