5 trend ที่น่าจับตามองในปี 2023 จาก Mckinsey Report
มีโอกาสได้ไปร่วมงานสัมนา เลยอยากจดบันทึกรายงานของ Mckinsey Report เกี่ยวกับ 5 trend ที่น่าจับตามองในปี 2023 หรือปีหน้าที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
1. Next normal: Price conscious and connected are the next normal
ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายลดลงถึงสองเท่าเมื่อเทียบจากไม่กี่ปีก่อน และนอกจากนั้นยังพบว่าพวกเขามีการเปลี่ยนแบรนด์บ่อยขึ้น รวมไปจนถึงการใช้โปรโมชันในการจับจ่ายใช้สอยแบบ Omnichannel บ่อยขึ้นเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าที่มากที่สุด สาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนี้ มีสองเรื่องใหญ่ๆ คือ ประการแรก ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ผู้บริโภคใส่ใจกับราคามากกว่าที่เคยเป็นมา ประการที่สอง การเพิ่มทางเลือกและช่องทางต่างๆ (รวมถึงทางออนไลน์และมือถือ) ทำให้ผู้บริโภคมีการเปรียบเทียบร้านค้า และค้นหาราคา และโปรโมชันที่ดีที่สุดได้ง่ายขึ้น สุดท้าย การเพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดียทำให้ผู้บริโภคมีแพลตฟอร์มในการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชัน และราคากับเพื่อนและ Page ต่างๆ ที่เค้าติดตาม ส่งผลให้การรีวีวสินค้า การแนะนำสินค้าแบบปากต่อปากจึงสำคัญ และส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
2. New consumers: New generation, new values, new attitudes
Gen Z และ Millennials เป็นผู้บริโภคสองกลุ่มหลักที่มีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอย และขับเคลื่อนธุรกิจในภาพรวม สิ่งที่ทำให้ Gen Z และ Millennials แตกต่างจากคนรุ่นอื่นๆ คือความเต็มใจที่จะลองสิ่งใหม่ๆ โดยทั้งสองกลุ่มต้องการแบรนด์ใหม่ที่สะท้อนถึงค่านิยมของพวกเขา มีความแตกต่าง และ มองหาแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ให้ความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
3. Disruptive plays: Disrupt or be disrupted
Disruption จะยังเป็นปัจจัยที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมหรือรูปแบบธุรกิจโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัทที่เข้าใจและลงทุนแต่เนิ่นๆ ยกตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์ทางเลือก metaverse และสกุลเงินดิจิทัล (Crypto) เนื้อสัตว์ทางเลือก(เนื้อสัตว์จากพืช) เป็นตัวอย่างที่สำคัญของการ disrupt ที่เห็นได้ชัด จากงานวิจัยของ MarketsandMarkets คาดว่าจะเติบโตจาก 1.89 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 เป็น 4.04 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 นี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทต่างๆ ที่สามารถผลิตเนื้อสัตว์ทดแทนที่มีรสชาติดีและราคาไม่แพง
Reference: https://www.marketsandmarkets.com/Market-Reports/meat-substitutes-market-979.html
4. Emerging: Need for different experiences are emerging, rapidly
โลกที่เชื่อมต่อถึงกันช่วยให้เกิดประสบการณ์ที่คล่องตัว เป็นส่วนตัว และสะดวกสบายผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งรวมถึงการค้าผ่านโซเชียลและการ LIVE สิ่งนี้ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจในการเชื่อมต่อกับลูกค้าแบบเรียลไทม์และสร้างประสบการณ์ที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น เมื่อเราเชื่อมต่อกันมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ สามารถรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความชอบและพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อช่วยให้ปรับแต่งสินค้าและโปรโมชันให้มีความเกี่ยวข้องกับเรามากขึ้น แนวโน้มการใช้หลายช่องทางเพื่อเข้าถึงลูกค้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจที่สามารถใช้ช่องทางเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น Online, Social, Live, Chat commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้
5. Circular economy: Time is now. Sustainability and Wellness are imperatives
อุตสาหกรรมด้านความยั่งยืน และ สุขภาพกับความงามมีมูลค่า 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมนี้ได้รับแรงผลักดันจากความตระหนักที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนประชากรสูงอายุและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผู้คนจะมีความตระหนักที่จะดูแลสุขภาพไปพร้อมๆ กับการใส่ใจในการรักษาทรัพยากรของโลกหรือทำลายระบบนิเวศของมัน โดยจะเน้นไปที่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) ซึ่งตั้งอยู่บนการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่เพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนที่ต่ำลง
ขอบคุณทาง Mckinsey ที่นำข้อมูลดีๆ มาแชร์ด้วยนะครับ